ตำรวจเข้าวัด (9 ก.พ.2552)

สวัสดีครับ วันนี้วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาของเรานั่นก็คือวันมาฆบูชาซึ่งย่อมาจากคำว่า "มาฆปุรณมีบูชา" แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน 3 ถือเป็น "วันจาตุรงคสันนิบาต" แปลว่า การประชุมอันประกอบด้วยองค์ 4 ซึ่งเป็นเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นพร้อมกันในสมัยพุทธกาล คือ
1. พระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป ซึ่งจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในสถานที่ต่างๆ เดินทางมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ
2. พระสงฆ์เหล่านี้ล้วนเป็นพระอรหันต์ และได้รับการบวชจากพระพุทธเจ้าโดยตรงด้วยวิธีเอหิภิกขุอุปสัมปทา 
3. พระสงฆ์ต่างมาประชุมพร้อมเพรียงกันโดยมิได้มีการนัดหมาย
4. วันที่มาประชุมตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (วันเพ็ญกลางเดือน 3) เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมเทศนาอันเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาคือโอวาทปาติโมกข์ซึ่งข้อธรรมย่ออันเป็นหลักหรือหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา 3 ประการได้แก่
1. ไม่ทำความชั่วทั้งปวง เว้นจากความชั่วด้วยกาย วาจา ใจ 
2. ทำความดีให้ถึงพร้อม ด้วยกาย วาจา ใจ 
3. ทำจิตใจให้หมดจดบริสุทธิ์ผ่องใส

ก็ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนน้อมนำธรรมะซึ่งเป็นประโยชน์ยิ่งนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันกันด้วยนะครับ

 

เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของเราในวันนี้ผมจึงขอนำโครงการที่คิดว่าสำคัญและเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมาเล่าให้ฟังกันนั่นก็คือการนำเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าวัดฟังธรรมะคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากพระสงฆ์ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่

โครงการนี้เราเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2552 โดยกำหนดว่าทุกวันพุธจะให้เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ผลัดที่จะปฏิบัติหน้าที่ระหว่างเวลา 16.00-24.00 น.เข้ารับฟัง วัตถุประสงค์คร่าวๆ ก็คือต้องการให้ตำรวจของเราซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนได้น้อมนำธรรมะ ข้อคิดดีๆ ไปใช้เป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่ที่งานก็ค่อนข้างหนักและเครียดอยู่พอสมควร บางครั้งผู้บังคับบัญชาก็ไม่ค่อยมีเวลาในเรื่องนี้หรือแม้ว่าจะมีแต่ก็ไม่สามารถถ่ายทอดให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ที่มีความพร้อมและสามารถถ่ายทอดได้อย่างแท้จริงก็คือพระภิกษุสงฆ์นั่นเอง  เมื่อพวกเราได้รับข้อคิดหรือหลักธรรมดีๆ ที่เป็นประโยชน์แล้วย่อมส่งผลต่อการทำหน้าที่ได้ดีพอสมควร จึงจัดทำโครงการนี้ขึ้นมาน็H

เหตุที่ต้องกำหนดวันพุธเป็นวันฟังธรรมก็เนื่องมาจากตัวผมเองนั่นแหละครับ เพราะแต่ละวันได้จัดตารางไว้ก่อนแล้วว่าจะทำอะไรเป็นพิเศษนอกเหนือจากงานประจำวัน เช่น วันจันทร์จะต้องออกพบปะนักเรียน,วันอังคารออกพบปะพี่น้อง,วันพฤหัสบดีออกพบปะเยี่ยมผู้นำท้องถิ่น,วันศุกร์ออกพบปะหัวหน้าส่วนหรือพี่น้องราชการต่างๆ ก็เหลือวันพุธจึงกำหนดให้ตำรวจเข้าวัดกัน

การปฏิบัติหน้าที่ของสายตรวจของเราไม่มีวันจันทร์,อังคาร,เสาร์,อาทิตย์ เหมือนหน่วยงานอื่นเขา เราจะเข้าเวรตามตารางที่กำหนดไว้ซึ่งบางคนอาจจะต้องเข้าเวรวันเสาร์วันอาทิตย์แต่หยุดวันจันทร์อังคารหรือในกรณีกลับกัน แล้วก็วันพุธที่กำหนดไว้ในโครงการนี้ตำรวจสายตรวจของเราทุกคนจะได้เข้าวัดฟังธรรมก่อนปฏิบัติหน้าที่เดือนละอย่างน้อย 1 ครั้งทุกคนโดยไม่ซ้ำกัน เพียงแต่เมื่อครบเดือนแล้วก็จะหมุนเวียนในลักษณะเช่นนี้อีกครั้งหนึ่ง

เท่าที่ทดลองทำมาก็คิดว่าเป็นประโยชน์พอสมควร ตำรวจสายตรวจของผมมีความตั้งใจในการทำหน้าที่เพิ่มขึ้น การพูดจาและให้บริการพี่น้องประชาชนดีขึ้นกว่าเดิมมาก อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือพี่น้องมีความพึงพอใจที่เห็นตำรวจของเราเป็นแบบนี้ คิดว่าจะทำเรื่องนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่องแม้ว่าวันข้างหน้าจะโยกย้ายไปอยู่ที่อื่นก็ตาม

ครับ ในวันนี้ก็ขอเล่าเรื่องโครงการที่คิดว่าเป็นประโยชน์มายังทุกท่านเพียงเท่านี้ครับผม



เพิ่มเติมครับ

คืนนี้เกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติที่สวยสดงดงามยิ่งขึ้นอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือจันทรุปราคาบางส่วนเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30 น.เห็นได้ทั่วทั้งประเทศไทยของเรา ก็ขอนำภาพสวยๆ ครั้งนี้มาบันทึกไว้ด้านล่างนี้ครับ

ข้อความนี้ถูกเขียนใน ไม่มีหมวดหมู่ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

ใส่ความเห็น